เริ่มเทรนครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปี 2019 น้ำหนักครั้งแรกที่เจอ 63 KG ส่วนสูง 174 CM เทรนกัน 2 เดือน (ช่วงก่อน covid) แล้วหยุดยาวเพราะต้องไปใช้ทุนแพทย์ที่ตจว. ปัจจุบันน้ำหนัก 68 KG
เพิ่มจากเดิม 5 KG
กลับมาอีกรอบช่วงกลางปี 2022 อยากมาออกกำลังกายอีกครั้ง แต่หัวไหล่ไม่เต็ม 100 % เพราะไปผ่าไหล่มา มีอาการไหล่ติด หลังผ่าตัด ได้พี่เต้จาก Fixme Clinic ช่วย rehab ให้กลับมา Benchpress ได้เต็มมุม และ เล่นไหล่ได้แบบไม่เจ็บ จากเดิมที่ต้องเล่นแค่ Floor press สามารถกลับมาเล่น Bench press เต็มมุมได้
รูปแบบโปรแกรมที่ใช้ออกแบบจากเป้าหมายเป็นหลัก
เป้าหมายแรกสุดคือความแข็งแรงของท่าหลัก เช่น Deadlift, Squat และ Bench press ซึ่งหลังจากจบโปรแกรมถือว่ามีพัฒนาการที่ชัดเจนมาก และ เป้าหมายรองลงมาคือการทำให้รูปร่าง ดูดีขึ้น
ระยะเวลาการเทรนทั้งหมด 11 เดือนแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเน้น Hypertrophy และ Rehab หัวไหล่ ช่วงที่สองเน้น Strengthg เป็นหลัก
ผลลัพธ์
Block ที่ 1 ยาว 5 เดือน โปรแกรมเน้น Hypertrophy ช่วงแรก และ Strength ช่วงท้าย
PR หลังจากจบ Block แรก (ยังไม่เคย Test 1 RM)
Squat = 95
Bench = 82.5
Deadlift = 120
Block ที่ 2 เริ่มหลังหยุดปีใหม่ เน้นเป็น Strength อีก 5 เดือน
PR เพิ่มจากเดิม
Squat + 15 KG เป็น 110 KG
Bench +7.5 KG เป็น 90 KG
Deadlift + 15 KG เป็น 135 KG
ปัจจัยความสำเร็จ
Attitude : มองการออกกำลังกายเป็นเรื่องของการสร้างสุขภาพและความแข็งแรงระยะยาว ไม่ใช่การลงโทษตัวเองเวลากินเยอะ (ลองสังเกตว่าเป็นคนไม่กล้าชั่งน้ำหนักมั้ย ถ้ากินมาเยอะ ?)
Discipline : วินัยสูง และ มีการนัดออกกำลังกายล่วงหน้าเสมอทุกสัปดาห์ ถ้ามีครั้งที่ติดธุระมาไม่ได้ จะรีบทำนัดใหม่ตลอด
Program : มีการเลือก Progression ที่ดี และเลือกท่าออกกำลังกายที่เหมาะกับสภาพร่างกาย ค่อยๆฝึกจนสามารถเล่นท่าที่ Advance มากขึ้นได้โดยไม่ต้องกลัวเจ็บ
Cardio : คนเล่นเวทเยอะๆ (มากกว่า 3 วันขึ้นไป) ที่หุ่นไม่ชัด และ ไม่ฟิต ส่วนใหญ่ตกม้าตาย เพราะ ถ้าเล่นเวทไม่หนักพอ และ ไม่ได้เล่นแบบ circuit พลังงานที่ใช้โดยรวมจะไม่เยอะมาก การไป cardio เพิ่มนอกจากจะช่วยเรียกความฟิตแล้ว ยังช่วยลดไขมันให้ไวขึ้นด้วยถ้า
สำหรับคนที่อยากพัฒนาสุขภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหุ่นที่ดีขึ้น หรือความแข็งแรงของร่างกาย ลองเข้ามาปรึกษาและทดลองออกกำลังกายได้ที่ Moov Bangkok !